SUCCESS2009
กำหนดชีวิตของตนเอง เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ จุดเริ่มต้นความสำเร็จอยู่ที่ความคิด คุณคิดแบบไหน?
หน้าเว็บ
หน้าแรก
ทำไหมคุณต้องทำ ธุรกิจ
วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ทำไมคุณต้องทำธุรกิจเครือข่าย?
ข้อรับข้อมูลเพิ่มได้ที่
คุณ ธนกฤต วิทยารัตน์ โทร 086-234-8881
วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553
คุณเคยคิดไหมว่าอีก 10 ปีข้างหน้าชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร
คุณเคยคิดไหมว่าอีก 10 ปีข้างหน้าชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร?
ขอข้อมูลเพิ่มที่
คูณ ธนกฤต วิทยารัตน์ โทร 086-234-8881
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
คิดชนะคือความสำเร็จ
คิดชนะคือความสำเร็จ
เชื่อหรือไม่ว่าการชวนคนร่วมธุรกิจขายตรงเป็นงานที่ง่ายที่สุดสำหรับคน
ที่ตั้งใจทำ หรือมีประสบการณ์มาก่อน ที่ยากคือ คนที่เราชวนมาเขาไม่ซื้อ ไม่ขาย
ไม่ทำอย่างที่เราต้องการต่างหาก ผมไม่ได้ยกเมฆ หรือพูดแบบคนสำเร็จในธุรกิจ
นี้มาก่อน ไม่เชื่อพวกเราลองเข้าไปดูบริษัทขายตรงที่เปิดตัวใหม่ ๆ กันดูซิครับ
จะเห็นคนเป็นจำนวนมากเดินกันขวักไขว่ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดูแล้วมีชีวิตชีวา น่าสมัครเข้าร่วม
ธุรกิจด้วย แสดงว่าพวกเขาชวนคนหรือ Sponsor ไต้ตรงตามเป้าหมาย หรือไม่ก็เห็นช่องทาง
ชัดเจน แต่พอทำไปสักพักหนึ่งเมื่อความยากตามมาถึง หลายคนก็ออกอาการท้อ เหนื่อย เบื่อ ๆ
อยาก ๆ บอก upline ขอพักสักระยะหนึ่ง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของธุรกิจประเภทนี้
คำว่าธรรมดา ผมหมายถึงงานนี้มันเป็นงานเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ความสำเร็จของการ
Sponsor คือการเข้าพบ ให้ข้อมูล และชักชวนร่วมธุรกิจ เรื่องนี้เกจิอาจารย์ท่านบอกว่า พูด 10 คน
ได้ 2 คน ถือว่าเก่ง แปลว่าร้อยละ 20 เท่านั้นที่ชวนได้สำเร็จ แต่หลังจาก Sponsor มาแล้ว สถิติเขา
บอกว่า ร้อยละ 30 เท่านั้น ที่มีการซื้อสินค้าต่อเนื่อง แปลว่าร้อยละ 70 ไม่สนใจ ส่วนคนสำเร็จใน
ธุรกิจขายตรง เขาบอกว่า มีเพียงร้อยละ 5 ของคนที่ทำหรือใช้สินค้าต่อเนื่องเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ ดู
ตามตัวเลขนี้จะเห็นว่า คนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจขายตรง จะต้องค้นหา เจรจา ต่อรอง กับคน
รวมแล้วกว่าพันคน จึงจะฝ่าด่าน 18 อรหันต์ หรือการเป็นสุดยอดมนุษย์ทองคำไปได้
เมื่อเป็นอย่างนี้ หลายคนจึงมองว่างานนี้ยาก เพราะจะไปค้นหาผู้มุ่งหวังหรือ Prospects
จากที่ไหน เป็นพัน ๆ คน แต่ถ้าเราศึกษาระบบขายตรงหลายชั้น(MLM) หรือปัจจุบันเรียกกันว่า
Network Marketing แล้วจะเห็นว่า ระบบได้ออกแบบให้เราสามารถค้นหาคนได้เป็นพัน ๆ คน
จากการทำงานกับคนเพียงไม่กี่คน หรือ จากการทำงานผ่านสื่อ Internet โทรศัพท์ สิ่งพิมพ์ หรือสื่อ
อื่นใดที่ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มคนได้ ขอเพียงแต่เราตัดสินใจเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง มิใช่ยืนมองแบบ
ไทยมุง เห็นอะไรเงา ๆ ก็สรุปเอาเอง ไม่ค้นหาความจริงก่อน
หลักของการชวนคนคือการค้นหาว่าเขากลัวอะไรที่สุด แล้วเข้าไปตรงนั้น ไปเป็นเพื่อนคู่คิด
ทำให้เขาเกิดความรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนของเขาที่จะปรึกษา หรือช่วยเหลือได้ เรามาดูกันดีไหมครับ
ว่าอะไรที่ทำให้คนส่วนใหญ่กลัว
1. กลัวการเปลี่ยนแปลง หลายคนกลัวการที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน เลิกงานแล้วต้อง
ออกไปพบปะญาติมิตร เพื่อนฝูง แทนที่จะกลับบ้านอยู่กับครอบครัว ขณะที่หลายคนไม่กล้าเปลี่ยน
การใช้สินค้า ไม่อยากเปลี่ยนที่ซื้อสินค้า บางคนกลัวว่า ถ้ามาทำธุรกิจขายตรงหรือมาหารายได้เสริม
แล้ว จะมีผลต่อเนื่องไปยังงานประจำกลัวมีผลกระทบกับความมั่นคงก้าวหน้า
2. กลัวการถูกปฏิเสธ กลัวว่าถ้าไปพบไปพูดแล้วเขาปฏิเสธ จะเสียหน้า ขาดความเชื่อมั่น
ตัวเอง เรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคำถามของคนทีสนใจทำธุรกิจยอดฮิตคำถามหนึ่งคือ ไม่รู้จะ
เริ่มต้นอย่างไร ที่จะทำให้คนที่เราไปชวนเขาตอบรับการชวนทันที
3. กลัวการดูถูก กลัวเพื่อนร่วมงาน กลัวญาติพี่น้องจะบอกว่า ไม่มีอะไรจะเลือกแล้วหรือถึง
มาทำขายตรง หรือไม่ก็ กลัวว่าถ้าทำไม่ได้แล้ว คนเขาจะดูถูก นินทาลับหลัง
4. ไม่อยากเสี่ยง เรื่องนี้ผมชอบถามคนในที่ประชุมบ่อย ๆ ว่าระหว่าง เงิน 100,000 บาทที่
คุณจะต้องเสี่ยงโยนหัว – ก้อย กับ เอาไปเลยแน่ ๆ 1,000 บาท คนกว่า 90% เลือกเอาแน่ ๆ 1,000
บาท ดังนั้น การที่เราไปบอกเขาว่า ถ้ามาทำธุรกิจกับเราแล้วประสบความสำเร็จ จะมีทรัพย์สินเงิน
ทองมากมาย มีอิสรภาพทางด้านความคิดและเวลา เขาก็จะถามว่า ถ้าทำไม่ได้ หรือคนที่เรา
Sponsor ไม่ทำล่ะ เราจะได้อะไร และเมื่อคำตอบออกมาว่า ถ้าคนที่เราชวนเขาไม่ทำ เราก็ไม่ได้
คนก็เลยตัดสินใจเอาด้านไม่ทำดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียชื่อเสียง
ทฤษฏีของการขจัดความกลัว คือการทำให้เขาเกิดความกล้า ทำให้เขาได้รู้ข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่
เขากลัวนั้น มันเป็นเพียงจินตนาการ หรือเป็นการมองด้านเดียวคือด้านของความล้มเหลว ทำอย่างไร
จะให้เขามองด้านของความสำเร็จ จึงเป็นงานหลักของนักธุรกิจอิสระขายตรงทุกคน
แต่นั่นก็เป็นการเข้าไปสอนให้เขาปรับปรุงตัวเอง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ระดับหนึ่ง อีกวิธี
หนึ่งที่คนทำธุรกิจขายตรงต้องทำ และต้องทำตลอดกาล คือการคิดชนะ ผู้พัน Sanders เจ้าของ
KFC ต้องพยายามเข้าพบเพื่อเจรจาคนร่วมทุนทำธุรกิจไก่ทอดกับคนกว่า 1,000 ครั้ง จึงสามารถ
สร้างธุรกิจ Franchises ทีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก Thomas Alva Edison ต้องใช้ความพยายามนับ
ร้อยครั้งพันครั้ง กว่าจะผลิตหลอดไฟฟ้าออกมาให้คนทั้งโลกได้อยู่ในความสว่างไสวในช่วงค่ำคืน
ดังนั้น การคิดชนะจึงเป็นโอกาสของความสำเร็จในธุรกิจขายตรงในยุคนี้
การคิดชนะก็มิใช่วิธีการตื้อจนคนทั่วไปเขาเบื่อ เขารำคาญแบบโฆษณาแมลงสาบของธุรกิจ
ประกันบริษัทหนึ่งที่หลายคนเห็น การคิดชนะจึงต้องมีวิธีการของมัน ซึ่งผมจะขอสรุปง่าย ๆ ให้
พวกเราได้รู้กัน 3 วิธีคือ
1. การเอาชนะด้วยเหตุผล วิธีนี้จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจหรือสินค้าอย่างละเอียด ใช้
การอธิบายหรือแสดงหลักฐานประกอบ ตอบทุกคำถาม แก้ทุกปัญหา ทำให้ผู้มุ่งหวัง หรือ คนใน
ทีมได้รู้แจ้งเห็นจริง จนเกิดความศรัทธา เชื่อมั่น นำไปสู่การตัดสินใจในการทำธุรกิจอย่างจริงจังได้
2. การเอาชนะด้วยกำลัง ในที่นี้ผมมิได้หมายความว่าใช้กำลังขู่บังคับ แต่อยากให้พวกเราใช้
ความเป็นต่อทางธุรกิจที่เขาต้องพึ่งพาอาศัยเรา จะเรียกว่าเป็นการต่อรองก็ไม่ผิด และผมยัง
หมายความ ถึงการใช้ตัวช่วย ซึ่งหมายถึงว่า เขาเกรงใจใคร เขาชื่อถือใคร เราไปขอให้คนนั้นช่วยเรา
อีกแรงหนึ่ง ในการโน้มน้าวจูงใจ
3. การเอาชนะด้วยการใช้แรงจูงใจ (Motivation) วิธีนี้ธุรกิจขายตรง ขายประกันใช้กันมานาน
แล้ว และก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่ธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นมา เราจึงเห็นการมี Promotion ต่าง ๆ ไม่ว่า
จะเป็น ทรัพย์สินเงินทอง การท่องเที่ยวต่างประเทศ เงินกองทุนรถ กองทุนบ้าน การลดแลกแจก
แถม การประดับเข็มเชิดชูเกียรติ การได้รับเกียรติเป็นบุคคลพิเศษในงานต่าง ๆ ก็เลือกเอานะครับ
ว่า Downline ของเราต้องการอะไรเป็นแรงจูงใจ เราก็เสนอให้เขาก่อน ทำให้เขาอยากได้ แล้วเขา
จะตัดสินใจทำงานเอง
ผมกล้าพูดได้ว่า ถ้าผู้นำในธุรกิจขายตรง มีความคิด มีจิตวิญญาณของผู้ชนะ จะมีความสุขใน
การทำงานมาก ยิ่งถ้าใครมองความล้มเหลวของการชวน ความยากของการทำ เป็นประสบการณ์
เป็นบันไดของความสำเร็จ ผู้นั้นจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเนื้องาน จะทำงานด้วยความสุข มีความหวัง
ในสายตาและอารมณ์ ทำให้เวลาเข้าพบผู้คน จะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น ทุกคนจะมองเห็น
ความมุ่งมั่นที่แท้จริงในตัว และแน่นอนครับ คนส่วนใหญ่จะอยากพูดอยากคุยด้วย เพราะคุณกำลัง
จะทำให้เขาได้รู้ ได้เห็นในสิ่งที่เขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความ
จริงนะครับ ถ้าโกหกเขา แล้วเขาจับได้ คุณก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปเหมือนกัน
ถึงตอนนี้ก็ต้องบอกก่อนครับว่า เวลาไปชวนคนอย่าไปคิดเพียงความร่ำรวยเงินทองในระยะ
สั้น จะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเขาเชื่อกันทุกคน เดี๋ยวนี้ การ Motivate แบบนี้มันเกร่อกันไปหมดแล้ว
ประเภทที่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกเดือนน่าจะหลอกได้กับตาสีตาสา ยายมียายมา ที่
อยู่บ้านนอก มากกว่าจะมาหลอกคุยกับคนที่มีความรู้ มีการศึกษา มีหน้าที่การงานทำ ยกเว้น คนจน
ที่กำลังจมน้ำ มองหาไม้ขอน มองหาต้นกล้วย มาพยุงตัวเองขึ้นฝั่ง คนพวกนี้อาจมองว่า ลองเสี่ยง
เชื่อเขาดูถ้าได้ก็ดี เสียช่างมัน มองเหมือนคนเล่นหวย ผมยังเชื่อว่า มีหลายคนที่สนใจธุรกิจขายตรง
และต้องการรู้ความจริงว่า ธุรกิจนี้มันทำงานอย่างไร อะไรคือกุญแจของความสำเร็จ
ความยากของการทำธุรกิจขายตรง คือการพยายามแสดงเหตุผลจูงใจคนที่เรามุ่งหวัง เพื่อให้
เขาหันมาสนใจในสินค้าหรือธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ แน่นอนที่คนอื่น คนที่เขาไม่รู้จัก ไม่สนใจ ไม่
กล้าทำ เขาก็ต้องตั้งกำแพงของความรู้สึก ปิดกั้นข้อมูลที่เรากำลังเสนอ ความคิดเอาชนะ คือหนึ่งกล
ยุทธ์ที่ผมอยากแนะนำให้พวกเราลองนำไปปฏิบัติดู ถ้าเราพูดความจริง มีหลักฐานและเหตุผลที่
เชื่อถือได้ และมีความตั้งใจจริงที่จะให้เขาได้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นจากประสิทธิภาพที่ดีของสินค้า
หรือ แผนการตลาดที่ดีสำหรับการหารายได้ ผมว่าพวกเราก็มีโอกาสที่ขึ้นไปอยู่ในถนนของคน
สำเร็จกันทุกคน
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มได้ที่
คุณ ธนกฤต วิทยารัตน์
โทร 086-234-8881
E-Mail/MSN:Thanagit2009@wndowslive.com
บทความที่ใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)