วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

คุณเคยคิดไหมว่าอีก 10 ปีข้างหน้าชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร

คุณเคยคิดไหมว่าอีก 10 ปีข้างหน้าชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร?
ขอข้อมูลเพิ่มที่
คูณ ธนกฤต วิทยารัตน์ โทร 086-234-8881

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คิดชนะคือความสำเร็จ

คิดชนะคือความสำเร็จ
เชื่อหรือไม่ว่าการชวนคนร่วมธุรกิจขายตรงเป็นงานที่ง่ายที่สุดสำหรับคน
ที่ตั้งใจทำ หรือมีประสบการณ์มาก่อน ที่ยากคือ คนที่เราชวนมาเขาไม่ซื้อ ไม่ขายไม่ทำอย่างที่เราต้องการต่างหาก ผมไม่ได้ยกเมฆ หรือพูดแบบคนสำเร็จในธุรกิจนี้มาก่อน ไม่เชื่อพวกเราลองเข้าไปดูบริษัทขายตรงที่เปิดตัวใหม่ ๆ กันดูซิครับจะเห็นคนเป็นจำนวนมากเดินกันขวักไขว่ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดูแล้วมีชีวิตชีวา น่าสมัครเข้าร่วมธุรกิจด้วย แสดงว่าพวกเขาชวนคนหรือ Sponsor ไต้ตรงตามเป้าหมาย หรือไม่ก็เห็นช่องทางชัดเจน แต่พอทำไปสักพักหนึ่งเมื่อความยากตามมาถึง หลายคนก็ออกอาการท้อ เหนื่อย เบื่อ ๆอยาก ๆ บอก upline ขอพักสักระยะหนึ่ง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของธุรกิจประเภทนี้คำว่าธรรมดา ผมหมายถึงงานนี้มันเป็นงานเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ความสำเร็จของการSponsor คือการเข้าพบ ให้ข้อมูล และชักชวนร่วมธุรกิจ เรื่องนี้เกจิอาจารย์ท่านบอกว่า พูด 10 คนได้ 2 คน ถือว่าเก่ง แปลว่าร้อยละ 20 เท่านั้นที่ชวนได้สำเร็จ แต่หลังจาก Sponsor มาแล้ว สถิติเขา
บอกว่า ร้อยละ 30 เท่านั้น ที่มีการซื้อสินค้าต่อเนื่อง แปลว่าร้อยละ 70 ไม่สนใจ ส่วนคนสำเร็จในธุรกิจขายตรง เขาบอกว่า มีเพียงร้อยละ 5 ของคนที่ทำหรือใช้สินค้าต่อเนื่องเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ ดูตามตัวเลขนี้จะเห็นว่า คนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจขายตรง จะต้องค้นหา เจรจา ต่อรอง กับคน
รวมแล้วกว่าพันคน จึงจะฝ่าด่าน 18 อรหันต์ หรือการเป็นสุดยอดมนุษย์ทองคำไปได้เมื่อเป็นอย่างนี้ หลายคนจึงมองว่างานนี้ยาก เพราะจะไปค้นหาผู้มุ่งหวังหรือ Prospectsจากที่ไหน เป็นพัน ๆ คน แต่ถ้าเราศึกษาระบบขายตรงหลายชั้น(MLM) หรือปัจจุบันเรียกกันว่า Network Marketing แล้วจะเห็นว่า ระบบได้ออกแบบให้เราสามารถค้นหาคนได้เป็นพัน ๆ คน
จากการทำงานกับคนเพียงไม่กี่คน หรือ จากการทำงานผ่านสื่อ Internet โทรศัพท์ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มคนได้ ขอเพียงแต่เราตัดสินใจเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง มิใช่ยืนมองแบบไทยมุง เห็นอะไรเงา ๆ ก็สรุปเอาเอง ไม่ค้นหาความจริงก่อนหลักของการชวนคนคือการค้นหาว่าเขากลัวอะไรที่สุด แล้วเข้าไปตรงนั้น ไปเป็นเพื่อนคู่คิดทำให้เขาเกิดความรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนของเขาที่จะปรึกษา หรือช่วยเหลือได้ เรามาดูกันดีไหมครับว่าอะไรที่ทำให้คนส่วนใหญ่กลัว
1. กลัวการเปลี่ยนแปลง หลายคนกลัวการที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน เลิกงานแล้วต้องออกไปพบปะญาติมิตร เพื่อนฝูง แทนที่จะกลับบ้านอยู่กับครอบครัว ขณะที่หลายคนไม่กล้าเปลี่ยนการใช้สินค้า ไม่อยากเปลี่ยนที่ซื้อสินค้า บางคนกลัวว่า ถ้ามาทำธุรกิจขายตรงหรือมาหารายได้เสริมแล้ว จะมีผลต่อเนื่องไปยังงานประจำกลัวมีผลกระทบกับความมั่นคงก้าวหน้า
2. กลัวการถูกปฏิเสธ กลัวว่าถ้าไปพบไปพูดแล้วเขาปฏิเสธ จะเสียหน้า ขาดความเชื่อมั่นตัวเอง เรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคำถามของคนทีสนใจทำธุรกิจยอดฮิตคำถามหนึ่งคือ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ที่จะทำให้คนที่เราไปชวนเขาตอบรับการชวนทันที
3. กลัวการดูถูก กลัวเพื่อนร่วมงาน กลัวญาติพี่น้องจะบอกว่า ไม่มีอะไรจะเลือกแล้วหรือถึงมาทำขายตรง หรือไม่ก็ กลัวว่าถ้าทำไม่ได้แล้ว คนเขาจะดูถูก นินทาลับหลัง
4. ไม่อยากเสี่ยง เรื่องนี้ผมชอบถามคนในที่ประชุมบ่อย ๆ ว่าระหว่าง เงิน 100,000 บาทที่คุณจะต้องเสี่ยงโยนหัว – ก้อย กับ เอาไปเลยแน่ ๆ 1,000 บาท คนกว่า 90% เลือกเอาแน่ ๆ 1,000บาท ดังนั้น การที่เราไปบอกเขาว่า ถ้ามาทำธุรกิจกับเราแล้วประสบความสำเร็จ จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีอิสรภาพทางด้านความคิดและเวลา เขาก็จะถามว่า ถ้าทำไม่ได้ หรือคนที่เราSponsor ไม่ทำล่ะ เราจะได้อะไร และเมื่อคำตอบออกมาว่า ถ้าคนที่เราชวนเขาไม่ทำ เราก็ไม่ได้คนก็เลยตัดสินใจเอาด้านไม่ทำดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียชื่อเสียงทฤษฏีของการขจัดความกลัว คือการทำให้เขาเกิดความกล้า ทำให้เขาได้รู้ข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่เขากลัวนั้น มันเป็นเพียงจินตนาการ หรือเป็นการมองด้านเดียวคือด้านของความล้มเหลว ทำอย่างไร
จะให้เขามองด้านของความสำเร็จ จึงเป็นงานหลักของนักธุรกิจอิสระขายตรงทุกคนแต่นั่นก็เป็นการเข้าไปสอนให้เขาปรับปรุงตัวเอง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ระดับหนึ่ง อีกวิธีหนึ่งที่คนทำธุรกิจขายตรงต้องทำ และต้องทำตลอดกาล คือการคิดชนะ ผู้พัน Sanders เจ้าของKFC ต้องพยายามเข้าพบเพื่อเจรจาคนร่วมทุนทำธุรกิจไก่ทอดกับคนกว่า 1,000 ครั้ง จึงสามารถสร้างธุรกิจ Franchises ทีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก Thomas Alva Edison ต้องใช้ความพยายามนับร้อยครั้งพันครั้ง กว่าจะผลิตหลอดไฟฟ้าออกมาให้คนทั้งโลกได้อยู่ในความสว่างไสวในช่วงค่ำคืนดังนั้น การคิดชนะจึงเป็นโอกาสของความสำเร็จในธุรกิจขายตรงในยุคนี้การคิดชนะก็มิใช่วิธีการตื้อจนคนทั่วไปเขาเบื่อ เขารำคาญแบบโฆษณาแมลงสาบของธุรกิจประกันบริษัทหนึ่งที่หลายคนเห็น การคิดชนะจึงต้องมีวิธีการของมัน ซึ่งผมจะขอสรุปง่าย ๆ ให้
พวกเราได้รู้กัน 3 วิธีคือ
1. การเอาชนะด้วยเหตุผล วิธีนี้จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจหรือสินค้าอย่างละเอียด ใช้การอธิบายหรือแสดงหลักฐานประกอบ ตอบทุกคำถาม แก้ทุกปัญหา ทำให้ผู้มุ่งหวัง หรือ คนในทีมได้รู้แจ้งเห็นจริง จนเกิดความศรัทธา เชื่อมั่น นำไปสู่การตัดสินใจในการทำธุรกิจอย่างจริงจังได้
2. การเอาชนะด้วยกำลัง ในที่นี้ผมมิได้หมายความว่าใช้กำลังขู่บังคับ แต่อยากให้พวกเราใช้ความเป็นต่อทางธุรกิจที่เขาต้องพึ่งพาอาศัยเรา จะเรียกว่าเป็นการต่อรองก็ไม่ผิด และผมยังหมายความ ถึงการใช้ตัวช่วย ซึ่งหมายถึงว่า เขาเกรงใจใคร เขาชื่อถือใคร เราไปขอให้คนนั้นช่วยเราอีกแรงหนึ่ง ในการโน้มน้าวจูงใจ
3. การเอาชนะด้วยการใช้แรงจูงใจ (Motivation) วิธีนี้ธุรกิจขายตรง ขายประกันใช้กันมานานแล้ว และก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่ธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นมา เราจึงเห็นการมี Promotion ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สินเงินทอง การท่องเที่ยวต่างประเทศ เงินกองทุนรถ กองทุนบ้าน การลดแลกแจกแถม การประดับเข็มเชิดชูเกียรติ การได้รับเกียรติเป็นบุคคลพิเศษในงานต่าง ๆ ก็เลือกเอานะครับว่า Downline ของเราต้องการอะไรเป็นแรงจูงใจ เราก็เสนอให้เขาก่อน ทำให้เขาอยากได้ แล้วเขาจะตัดสินใจทำงานเอง
ผมกล้าพูดได้ว่า ถ้าผู้นำในธุรกิจขายตรง มีความคิด มีจิตวิญญาณของผู้ชนะ จะมีความสุขในการทำงานมาก ยิ่งถ้าใครมองความล้มเหลวของการชวน ความยากของการทำ เป็นประสบการณ์เป็นบันไดของความสำเร็จ ผู้นั้นจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเนื้องาน จะทำงานด้วยความสุข มีความหวังในสายตาและอารมณ์ ทำให้เวลาเข้าพบผู้คน จะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น ทุกคนจะมองเห็นความมุ่งมั่นที่แท้จริงในตัว และแน่นอนครับ คนส่วนใหญ่จะอยากพูดอยากคุยด้วย เพราะคุณกำลังจะทำให้เขาได้รู้ ได้เห็นในสิ่งที่เขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงนะครับ ถ้าโกหกเขา แล้วเขาจับได้ คุณก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปเหมือนกันถึงตอนนี้ก็ต้องบอกก่อนครับว่า เวลาไปชวนคนอย่าไปคิดเพียงความร่ำรวยเงินทองในระยะสั้น จะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเขาเชื่อกันทุกคน เดี๋ยวนี้ การ Motivate แบบนี้มันเกร่อกันไปหมดแล้วประเภทที่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกเดือนน่าจะหลอกได้กับตาสีตาสา ยายมียายมา ที่อยู่บ้านนอก มากกว่าจะมาหลอกคุยกับคนที่มีความรู้ มีการศึกษา มีหน้าที่การงานทำ ยกเว้น คนจน
ที่กำลังจมน้ำ มองหาไม้ขอน มองหาต้นกล้วย มาพยุงตัวเองขึ้นฝั่ง คนพวกนี้อาจมองว่า ลองเสี่ยงเชื่อเขาดูถ้าได้ก็ดี เสียช่างมัน มองเหมือนคนเล่นหวย ผมยังเชื่อว่า มีหลายคนที่สนใจธุรกิจขายตรงและต้องการรู้ความจริงว่า ธุรกิจนี้มันทำงานอย่างไร อะไรคือกุญแจของความสำเร็จความยากของการทำธุรกิจขายตรง คือการพยายามแสดงเหตุผลจูงใจคนที่เรามุ่งหวัง เพื่อให้เขาหันมาสนใจในสินค้าหรือธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ แน่นอนที่คนอื่น คนที่เขาไม่รู้จัก ไม่สนใจ ไม่กล้าทำ เขาก็ต้องตั้งกำแพงของความรู้สึก ปิดกั้นข้อมูลที่เรากำลังเสนอ ความคิดเอาชนะ คือหนึ่งกลยุทธ์ที่ผมอยากแนะนำให้พวกเราลองนำไปปฏิบัติดู ถ้าเราพูดความจริง มีหลักฐานและเหตุผลที่เชื่อถือได้ และมีความตั้งใจจริงที่จะให้เขาได้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นจากประสิทธิภาพที่ดีของสินค้าหรือ แผนการตลาดที่ดีสำหรับการหารายได้ ผมว่าพวกเราก็มีโอกาสที่ขึ้นไปอยู่ในถนนของคนสำเร็จกันทุกคน
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มได้ที่
คุณ ธนกฤต วิทยารัตน์
โทร 086-234-8881
E-Mail/MSN:Thanagit2009@wndowslive.com